วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556

รำวงมาตรฐาน




ประวัติความเป็นมาของรำวงมาตรฐาน


         "รำวงมาตรฐาน" เป็นการแสดงที่มีวิวัฒนาการมาจาก "รำโทน" (กรมศิลปากร, 2550 : 136-143)  เป็นการรำและการร้องของชาวบ้านซึ่งมีผู้รำทั้งชายและหญิง รำกันเป็นคู่ ๆ รอบ ๆ ครกตำข้าวที่วางคว่ำไว้ หรือไม่ก็รำกันเป็นวงกลม โดยมีโทนเป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ ลักษณะการรำและร้องเป็นไปตามความถนัด ไม่มีแบบแผนกำหนดไว้ คงเป็นการรำและร้องง่าย ๆ มุ่งเน้นที่ความสนุกสนานรื่นเริงเป็นสำคัญ เช่น เพลงช่อมาลี เพลงยวนยาเหล เพลงหล่อจริงนะดารา เพลงตามองตา เพลงใกล้เข้าไปอีกนิด เป็นต้น ด้วยเหตุที่การรำชนิดนี้มีโทนเป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ จึงเรียกการแสดงชุดนี้ว่า รำโทน 

         ต่อมา เมื่อปี พ.ศ.2487 ในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของการละเล่นรื่นเริงประจำชาติและเห็นว่าคนไทยนิยมเล่นรำโทนกันอย่างแพร่หลาย ถ้าปรับปรุงการเล่นรำโทนให้เป็นระเบียบทั้งเพลงร้อง ลีลาท่ารำ และการแต่งกายจะทำให้การเล่นรำโทนเป็นที่น่านิยมมากยิ่งขึ้น จึงได้มอบหมายให้กรมศิลปากรปรับปรุงรำโทนเสียใหม่ให้เป็นมาตรฐาน มีการแต่งเนื้อร้องทำนองเพลง และนำท่ารำจากเพลงแม่บทมากำหนดเป็นท่ารำเฉพาะ แต่ละเพลงอย่างเป็นแบบแผน


 

การแต่งกาย

           การแต่งกายมีการกำหนดการแต่งกายของผู้แสดง ให้มีระเบียบด้วยการใช้ชุดไทย และชุดสากลนิยมโดยแต่งเป็นคู่ ๆ รับกันทั้งชายและหญิง สามารถแต่งได้ 4 แบบ คือ
แบบที่ 1 แบบชาวบ้าน

ชาย   :  นุ่งผ้าโจงกระเบน สวมเสื้อคอพวงมาลัย เอวคาดผ้าห้อยชายด้านหน้า
หญิง  :  นุ่งโจงกระเบน ห่มผ้าสไบอัดจีบ ปล่อยผม ประดับดอกไม้ที่ผมด้านซ้าย 
            คาดเข็มขัด  ใส่เครื่องประดับ
แบบที่ 2 แบบรัชกาลที่ 5

ชาย   :  นุ่งผ้าโจงกระเบน สวมเสื้อคด ราชปะแตน ใส่ถุงเท้า รองเท้า
หญิง  :  นุ่งผ้าโจงกระเบน สวมเสื้อลูกไม้ สไบพาดบ่าผูกเป็นโบว์ ทิ้งชายไว้ข้างลำตัว
            ด้านซ้าย ใส่เครื่องประดับมุก
แบบที่ 3 แบบสากลนิยม

ชาย :  นุ่งกางเกง สวมสูท ผูกไท้
หญิง :  นุ่งกระโบรงป้ายข้าง ยาวกรอมเท้า ใส่เสื้อคอกลม แขนกระบอก
แบบที 4 แบบราตรีสโมสร


ชาย :  นุ่งกางเกง สวมเสื้อพระราชทาน ผ้าคาดห้อยจากด้านหน้า
หญิง :  นุ่งกระโปรงยาวจีบหน้านาง ใส่เสื้อจับเดรป ชายผ้าห้อยจากบ่าลงไป 
          ทางด้านหลังเปิดไหล่ขวา ศีรษะทำผมเกล้าเป็นมวยสูง ใส่เกียว และ เครื่องประดับ



เพลงมาตรฐาน  มีทั้งหมด 10 เพลง

1. เพลงงามแสงเดือน

ท่ารำ : สอดสร้อยมาลา (ช/ญ)
           งามแสงเดือนมาเยือนส่องหล้า งามใบหน้าเมื่ออยู่วงรำ (2 เที่ยว)
เราเล่นเพื่อสนุก เปลื้องทุกข์วายระกำ
ขอให้เล่นฟ้อนรำ เพื่อสามัคคีเอย





 

 

 

2. เพลงชาวไทย

ท่ารำ : ท่าชักแป้งผลัดหน้า (ช/ญ)
           ชาวไทยเจ้าเอ๋ย ขออย่าละเลยในการทำหน้าที่
การที่เราได้เล่นสนุก เปลื้องทุกข์สบายอย่างนี้
เพราะชาติเราได้เสรี มีเอกราชสมบูรณ์
เราจึงควรช่วยชูชาติ ให้เก่งกาจเจิดจำรูญ
เพื่อความสุขเพิ่มพูน ของชาวไทยเราเอย.

 

 


 



 


3. เพลงรำมาซิมารำ

ท่ารำ : รำส่าย (ช/ญ)
           รำซิมารำ เริงระบำกันให้สนุก
ยามงานเราทำงานจริงๆ ไม่ละไม่ทิ้งจะเกิดเข็ญขุก
ถึงยามว่างเราจึงรำเล่น ตามเชิงเช่นเพื่อให้สร่างทุกข์
ตามเยี่ยงอย่างตามยุค เล่นสนุกอย่างวัฒนธรรม
เล่นอะไรให้มีระเบียบ ให้งามให้เรียบจึ่งจะคมขำ
มาซิเจ้าเอ๋ยมาฟ้อนรำ มาเล่นระบำของไทยเราเอย.





 


4. เพลงคืนเดือนหงาย

ท่ารำ : สอดสร้อยมาลาแปลง (ช/ญ)
          ยามกลางเดือนหงาย เย็นพระพายโบกพริ้วปลิวมา
เย็นอะไรก็ไม่เย็นจิต เท่าเย็นผูกมิตรไม่เบื่อระอา
เย็นร่มธงไทยโบกไปทั่วหล้า เย็นยิ่งน้ำฟ้ามาประพรมเอย

 

 

 

 



5. เพลงดวงจันทร์วันเพ็ญ

ท่ารำ : แขกเต้าเข้ารัง , ผาลาเพียงไหล่ (ช/ญ)
           ดวงจันทร์วันเพ็ญ ลอยเด่นอยู่ในนภา
ทรงกลดสดสี รัศมีทอแสงงามตา
แสงจันทร์อร่าม ฉายงามส่องฟ้า
ไม่งามเท่าหน้า นวลน้องยองใย
งามเอยแสนงาม งามจริงยอดหญิงชาติไทย
งามวงพักตร์ยิ่งดวงจันทรา จริตกิริยานิ่มนวลละไม
วาจากังวาน อ่อนหวานจับใจ
รูปทรงสมส่วนยั่วยวนหทัย สมเป็นดอกไม้ขวัญใจชาติเอย






 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

6. เพลงดอกไม้ของชาติ

ท่ารำ : รำยั่ว (ช/ญ)
          ขวัญใจดอกไม้ของชาติ งามวิลาศนวยนาฏร่ายรำ (๒ เที่ยว)
เอวองค์อ่อนงาม ตามแบบนาฏศิลป์
ชี้ชาติไทยเนาถิ่น เจริญวัฒนธรรม
งานสุกสิ่งสามารถ สร้างชาติช่วยชาย
ดำเนินตามนโยบาย สู่ทนเหนื่อยยากตรากตรำ






7. เพลงหญิงไทยใจงาม

ท่ารำ : พรหมสี่หน้า , ยูงฟ้อนหาง (ช/ญ)
           เดือนพราว ดาวแวววาวระยับ
แสงดาวประดับ ส่องให้เดือนงามเด่น
ดวงหน้า โสภาเพียงเดือนเพ็ญ
คุณความดีที่เห็น เสริมให้เด่นเลิศงาม
ขวัญใจ หญิงไทยส่องศรีชาติ
รูปงามพิลาศ ใจกล้ากาจเรืองนาม
เกียรติยศ ก้องปรากฏทั่วคาม
หญิงไทยใจงาม ยิ่งเดือนดาวพราวแพรว













 

 

8. เพลงดวงจันทร์ขวัญฟ้า

ท่ารำ : ช้างประสานงา , จันทร์ทรงกลดแปลง (ช/ญ)
           ดวงจันทร์ขวัญฟ้า ชื่นชีวาขวัญพี่
จันทร์ประจำราตรี แต่ขวัญพี่ประจำใจ
ที่เทิดทูนคือชาติ เอกราชอธิปไตย
ถนอมแนบสนิทใน คือขวัญใจพี่เอย.



 



















9. เพลงยอดชายใจหาญ

ท่ารำ : หญิง ชะนีร่ายไม้ ชาย จ่อเพลิงกาฬ
           โอ้ยอดชายใจหาญ ขอสมานไมตรี
น้องมาร่วมชีวี กอบกรณีกิจชาติ
แม้สุดยากลำเค็ญ ไม่ขอเว้นเดินตาม
น้องจักสู้พยายาม ทำเต็มความสามารถ.




 

10. เพลงบูชานักรบ

ท่ารำ :ใช้ท่า ชาย จันทร์ทรงกลด / ขอแก้ว หญิง ขัดจางนาง / ล่อแก้ว
          น้องรักรักบูชาพี่ ที่มั่นคงที่มั่นคงกล้าหาญ
เป็นนักสู้เชี่ยวชาญ สมศักดิ์ชาตินักรบ ่ น้องรักรักบูชาพี่ ที่มานะที่มานะอดทน
หนักแสนหนักพี่ผจญ เกียรติพี่ขจรจบ
น้องรักรักบูชาพี่ ที่ขยันที่ขยันกิจการ
บากบั่นสร้างหลักฐาน ทำทุกด้านทำทุกด้านครันครบ
น้องรักบูชาพี่ ที่รักชาติที่รักชาติยิ่งชีวิต
เลือดเนื้อที่พลีอุทิศ ชาติคงอยู่คงอยู่คู่พิภพ



 



















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น